8 ธันวาคม 2567
ปัจจุบัน เจ้าของสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขและแมว มากขึ้น ทำให้สัตว์มีอายุยืนยาวกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม อายุที่ยืนยาวยังนำมาซึ่งโรคต่างๆ ที่พบบ่อยในสัตว์สูงวัย โดยเฉพาะโรคหัวใจ ซึ่งแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ของสัตว์แต่ละชนิด ดังนี้
โรคหัวใจในสุนัข
1. สุนัขพันธุ์เล็ก
- โรคลิ้นหัวใจเสื่อม (Degenerative Mitral Valve Disease – DMVD)
พบมากในพันธุ์คาวาเลียคิงชาร์ลส์สแปเนียล ซึ่งมีโอกาสป่วยตั้งแต่อายุน้อย - อาการ : ลิ้นหัวใจหนาขึ้นและปิดไม่สนิท ทำให้เลือดไหลย้อนกลับสู่หัวใจห้องบนซ้าย ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมปอดในภายหลัง
- สายพันธุ์ที่เสี่ยงอื่นๆ : ปอมเมอเรเนียน, ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย, พุดเดิ้ล, มิเนเจอร์ชเนาเซอร์, มอลทีส, ชิวาวา โดยส่วนใหญ่เกิดเมื่ออายุมากขึ้น
2. สุนัขพันธุ์ใหญ่
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจชนิดห้องหัวใจขยายใหญ่ (Dilated Cardiomyopathy – DCM)
พบมากในพันธุ์บ๊อกเซอร์, โดเบอร์แมน, เกรทเดน และพันธุ์ขนาดกลาง เช่น ค๊อกเกอร์สแปเนียล - อาการ : กล้ามเนื้อหัวใจไม่สามารถบีบตัวได้ตามปกติ ทำให้เลือดคงค้างในหัวใจและเกิดภาวะหัวใจโต ส่งผลให้เลือดคั่งในหลอดเลือดทั่วร่างกาย มีน้ำท่วมปอด ของเหลวสะสมในช่องท้องหรือช่องอก และอาจเกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะ
โรคหัวใจในแมว
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนากว่าปกติ (Hypertrophic Cardiomyopathy – HCM)
แมวทุกสายพันธุ์มีความเสี่ยง แต่พันธุ์ที่พบมาก ได้แก่ เมนคูน, แร็กดอล, เปอร์เซีย, สฟิงซ์, อเมริกันช็อตแฮร์ - อาการ : มักไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่เมื่อโรครุนแรงขึ้นอาจเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวและลิ่มเลือดอุดตัน
- ผลกระทบ : น้ำท่วมปอด, ของเหลวในช่องอก, ขาหลังไม่ขยับ, ปลายเท้าเย็นหรือซีด
การวินิจฉัยและการรักษาโรคหัวใจในสัตว์เลี้ยง
สัตว์ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจในระยะแรกมักไม่แสดงอาการผิดปกติ เนื่องจากหัวใจยังสามารถปรับตัวได้ แต่เมื่อโรคพัฒนาไปถึงจุดที่หัวใจล้มเหลว จะเกิดอาการเช่น น้ำท่วมปอด ของเหลวสะสมในช่องอกหรือช่องท้อง ไอ หายใจลำบาก และหมดสติ
การวินิจฉัย
- ซักประวัติสัตว์ป่วย
- ตรวจร่างกาย
- ใช้การถ่ายภาพรังสี (X-ray) การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อน (Echocardiography)
การรักษา
- หากยังไม่มีภาวะหัวใจล้มเหลว จะติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
- สำหรับสัตว์ที่แสดงภาวะหัวใจล้มเหลว จะรักษาด้วยการใช้ยาเพื่อควบคุมอาการและช่วยให้หัวใจทำงานปกติที่สุด
การดูแลสัตว์เลี้ยงที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ
การพบสัตวแพทย์
-
- พาสัตว์เลี้ยงพบสัตวแพทย์ตามนัดอย่างเคร่งครัด
- ให้ยาสัตว์อย่างสม่ำเสมอ
ควบคุมอาหาร
-
- เลือกอาหารที่มีเกลือต่ำ (<0.2% ของอาหารแห้ง)
- หากทำอาหารเอง ควรเป็นอาหารต้ม ทอด นึ่ง หรือย่าง โดยไม่ปรุงรส
การออกกำลังกาย
-
- ให้สัตว์ออกกำลังกายเบาๆ หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก
- หากสัตว์มีอาการเหนื่อยหอบ ควรหยุดทันที
โรคหัวใจในสัตว์เลี้ยงเป็นภัยเงียบที่ควรเฝ้าระวัง เนื่องจากในระยะแรกมักไม่มีอาการผิดปกติ เจ้าของสัตว์ควรสังเกตอาการและพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการผิดปกติ การดูแลสัตว์อย่างเหมาะสมและปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์จะช่วยให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดีและมีชีวิตที่ยืนยาว
แหล่งที่มา : https://www.naewna.com/lady/columnist/61140