Sunday, December 22, 2024
spot_img
Homeข่าวความรู้เกี่ยวกับโรคหัวใจในสุนัขและแมว การป้องกันและดูแล

ความรู้เกี่ยวกับโรคหัวใจในสุนัขและแมว การป้องกันและดูแล

8 ธันวาคม 2567

ปัจจุบัน เจ้าของสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขและแมว มากขึ้น ทำให้สัตว์มีอายุยืนยาวกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม อายุที่ยืนยาวยังนำมาซึ่งโรคต่างๆ ที่พบบ่อยในสัตว์สูงวัย โดยเฉพาะโรคหัวใจ ซึ่งแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ของสัตว์แต่ละชนิด ดังนี้

2.ความรู้เกี่ยวกับโรคหัวใจในสุนัขและแมว

โรคหัวใจในสุนัข

1. สุนัขพันธุ์เล็ก

  • โรคลิ้นหัวใจเสื่อม (Degenerative Mitral Valve Disease – DMVD)
    พบมากในพันธุ์คาวาเลียคิงชาร์ลส์สแปเนียล ซึ่งมีโอกาสป่วยตั้งแต่อายุน้อย
  • อาการ : ลิ้นหัวใจหนาขึ้นและปิดไม่สนิท ทำให้เลือดไหลย้อนกลับสู่หัวใจห้องบนซ้าย ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมปอดในภายหลัง
  • สายพันธุ์ที่เสี่ยงอื่นๆ : ปอมเมอเรเนียน, ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย, พุดเดิ้ล, มิเนเจอร์ชเนาเซอร์, มอลทีส, ชิวาวา โดยส่วนใหญ่เกิดเมื่ออายุมากขึ้น

2. สุนัขพันธุ์ใหญ่

  • โรคกล้ามเนื้อหัวใจชนิดห้องหัวใจขยายใหญ่ (Dilated Cardiomyopathy – DCM)
    พบมากในพันธุ์บ๊อกเซอร์, โดเบอร์แมน, เกรทเดน และพันธุ์ขนาดกลาง เช่น ค๊อกเกอร์สแปเนียล
  • อาการ : กล้ามเนื้อหัวใจไม่สามารถบีบตัวได้ตามปกติ ทำให้เลือดคงค้างในหัวใจและเกิดภาวะหัวใจโต ส่งผลให้เลือดคั่งในหลอดเลือดทั่วร่างกาย มีน้ำท่วมปอด ของเหลวสะสมในช่องท้องหรือช่องอก และอาจเกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะ

โรคหัวใจในแมว

  • โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนากว่าปกติ (Hypertrophic Cardiomyopathy – HCM)
    แมวทุกสายพันธุ์มีความเสี่ยง แต่พันธุ์ที่พบมาก ได้แก่ เมนคูน, แร็กดอล, เปอร์เซีย, สฟิงซ์, อเมริกันช็อตแฮร์
  • อาการ : มักไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่เมื่อโรครุนแรงขึ้นอาจเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวและลิ่มเลือดอุดตัน
  • ผลกระทบ : น้ำท่วมปอด, ของเหลวในช่องอก, ขาหลังไม่ขยับ, ปลายเท้าเย็นหรือซีด

3.ความรู้เกี่ยวกับโรคหัวใจในสุนัขและแมว

การวินิจฉัยและการรักษาโรคหัวใจในสัตว์เลี้ยง

สัตว์ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจในระยะแรกมักไม่แสดงอาการผิดปกติ เนื่องจากหัวใจยังสามารถปรับตัวได้ แต่เมื่อโรคพัฒนาไปถึงจุดที่หัวใจล้มเหลว จะเกิดอาการเช่น น้ำท่วมปอด ของเหลวสะสมในช่องอกหรือช่องท้อง ไอ หายใจลำบาก และหมดสติ

การวินิจฉัย

  • ซักประวัติสัตว์ป่วย
  • ตรวจร่างกาย
  • ใช้การถ่ายภาพรังสี (X-ray) การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อน (Echocardiography)

การรักษา

  • หากยังไม่มีภาวะหัวใจล้มเหลว จะติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
  • สำหรับสัตว์ที่แสดงภาวะหัวใจล้มเหลว จะรักษาด้วยการใช้ยาเพื่อควบคุมอาการและช่วยให้หัวใจทำงานปกติที่สุด

การดูแลสัตว์เลี้ยงที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ

การพบสัตวแพทย์

    • พาสัตว์เลี้ยงพบสัตวแพทย์ตามนัดอย่างเคร่งครัด
    • ให้ยาสัตว์อย่างสม่ำเสมอ

ควบคุมอาหาร

    • เลือกอาหารที่มีเกลือต่ำ (<0.2% ของอาหารแห้ง)
    • หากทำอาหารเอง ควรเป็นอาหารต้ม ทอด นึ่ง หรือย่าง โดยไม่ปรุงรส

การออกกำลังกาย

    • ให้สัตว์ออกกำลังกายเบาๆ หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก
    • หากสัตว์มีอาการเหนื่อยหอบ ควรหยุดทันที

โรคหัวใจในสัตว์เลี้ยงเป็นภัยเงียบที่ควรเฝ้าระวัง เนื่องจากในระยะแรกมักไม่มีอาการผิดปกติ เจ้าของสัตว์ควรสังเกตอาการและพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการผิดปกติ การดูแลสัตว์อย่างเหมาะสมและปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์จะช่วยให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดีและมีชีวิตที่ยืนยาว

แหล่งที่มา : https://www.naewna.com/lady/columnist/61140

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments